แพทย์แนะนำ: Filler เกาหลี กับของยุโรป ต่างกันแค่ไหน? นพ.เสฏฐวุฒิ เลิศลักษณ์ปรีชา อธิบายทุกข้อสงสัยเรื่องราคาและคุณภาพ

สวัสดีครับ ผม นพ.เสฏฐวุฒิ เลิศลักษณ์ปรีชา  

หลายคนที่มาปรึกษาหมอถามว่า...

• “Filler ยี่ห้อนี้ทำไมราคาถูกจัง เป็นของเกาหลีใช่มั้ย?”  

• “ของยุโรปแพงกว่าเยอะ คุ้มค่ากว่าหรือเปล่า?”  

• “แล้วคุณภาพต่างกันยังไง?”

วันนี้หมอจะมาอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า  

Filler จากเกาหลี กับของยุโรป แตกต่างกันยังไง? และควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับใบหน้าและงบประมาณครับ

Filler คืออะไร?

Filler หรือสารเติมเต็มที่นิยมใช้คือ Hyaluronic Acid (HA)  

ใช้ฉีดเพื่อเพิ่มวอลลุ่มใต้ผิวหนัง เช่น ใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม คาง ริมฝีปาก ฯลฯ  

โดยเป็นหัตถการที่ต้องทำโดยแพทย์ และเลือกวัสดุที่ปลอดภัยผ่าน อย.

เปรียบเทียบ Filler เกาหลี vs ยุโรป

คุณสมบัติ	Filler เกาหลี	Filler ยุโรป (เช่น Juvederm, Restylane, Belotero)
ราคา	✅ ย่อมเยากว่า (7,000–12,000/cc)	❌ ราคาสูงกว่า (13,000–20,000+/cc)
ระยะเวลาคงตัว	4–8 เดือน (บางรุ่นสูงสุด 12 เดือน)	12–18 เดือน ขึ้นกับรุ่น
เทคโนโลยีการผลิต	ใช้เทคนิค crosslink แบบพื้นฐาน	ใช้เทคโนโลยีเฉพาะ เช่น Vycross, NASHA
เนื้อฟิลเลอร์	นุ่ม – ปานกลาง	มีหลาย texture ให้เลือกตามตำแหน่งที่ฉีด
ผ่าน อย. ไทย	✅ หลายยี่ห้อ (เช่น Neuramis, Hyafilia, Dermalax)	✅ ผ่านครบทุกยี่ห้อ
การกระจายตัว	กระจายตัวดี แต่ควบคุม shape ยากบางรุ่น	ควบคุมรูปทรงได้แม่นยำกว่า
ความเสี่ยงดื้อยา / ก้อน	ต่ำ ถ้าฉีดถูกชั้น	ต่ำ และมีเอกสารวิจัยรองรับมากกว่า
เหมาะกับใคร	คนเริ่มต้น หรือฉีดในจุดไม่ซับซ้อน	ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว เน้นความเป๊ะ

ตัวอย่าง Filler ยอดนิยม

🇰🇷 เกาหลี:

• Neuramis – เนื้อนุ่ม เหมาะกับใต้ตา, ริมฝีปาก

• Hyafilia – คงตัวดี เหมาะกับขมับ คาง

• Elravie – ราคาประหยัด ใช้ในจุดเล็ก ๆ

🇪🇺 ยุโรป:

• Juvederm (USA/EU) – รุ่น Voluma, Volift, Volbella ผลลัพธ์ชัดและอยู่ได้นาน

• Restylane (Sweden) – มีหลายเนื้อ เหมาะกับทุกบริเวณ

• Belotero (Germany) – กระจายตัวเรียบ เหมาะกับผิวบาง ใต้ตา ร่องเล็ก

แล้วควรเลือกแบบไหนดี?

ความต้องการ	หมอแนะนำ
งบประมาณจำกัด / ต้องการลองฉีดครั้งแรก	ใช้ Filler เกาหลีที่ผ่าน อย. และฉีดในจุดปลอดภัย
ต้องการผลลัพธ์อยู่ได้นาน / ต้องการปรับโครงหน้า	ใช้ Filler ยุโรป เช่น Juvederm หรือ Restylane
ฉีดในจุดซับซ้อน เช่น ใต้ตา ขอบกระดูก / คนผิวบาง	ยุโรปมักได้ผลดีกว่า เพราะเนื้อฟิลเลอร์คุม shape ได้แม่นยำ
ต้องการเติมบ่อย ๆ เป็น routine	เกาหลีอาจคุ้มค่าในแง่ต้นทุน

ข้อควรระวัง

- ต้อง เป็นฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. เท่านั้น  

- ดูขวดจริงก่อนฉีด (มีชื่อยี่ห้อ, เลขล็อต, วันหมดอายุ)  

- ห้ามใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือที่ไม่สลายได้ เช่น ซิลิโลน  

- เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเข้าใจ anatomy

แนะนำจากแพทย์

• “ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อมีข้อดีของตัวเองครับ  

• แต่การเลือกต้องดูทั้งจุดที่ฉีด, งบประมาณ และเป้าหมายของคนไข้  

• หมอเองจะประเมินทุกเคสแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผลออกมาสวยและปลอดภัยที่สุดครับ”

สรุป

• Filler เกาหลีและยุโรป ต่างกันที่เทคโนโลยี ความคงตัว และราคา  

• ไม่มีแบบไหน “ดีที่สุด” แบบเดียวสำหรับทุกคน  

• การเลือกที่เหมาะสม + ฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ = ผลลัพธ์ที่ดี + ความปลอดภัยสูงสุด

อย่าลืมว่า ใบหน้าเรามีค่าเกินกว่าจะเสี่ยงครับ